เทคนิค SEO ฟรี ที่ช่วยเพิ่มทราฟฟิกเว็บไซต์ได้ 10 เท่า

by | Apr 17, 2568 | SEO

หลายคนคิดว่า SEO ต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเห็นผล ต้องมีทีมงานใหญ่ สร้างคอนเทนต์เยอะ และทำลิงก์กลับ (backlink) ให้เพียบ แต่นั่นไม่ใช่ความจริงเสมอไป

ถ้าคุณทำตามขั้นตอน SEO แบบง่าย ๆ 3 ขั้นตอนนี้ คุณจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง หนึ่งในลูกค้าของผมใช้วิธีนี้ แล้วทราฟฟิกเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าในเดือนเดียว โดยไม่เสียเงินเลยสักบาท

เรามาเริ่มกันเลยครับ

วิดีโอต้นฉบับ

Get 10x More Website Traffic with This Free SEO Technique

วิธีการเปิด ซับไตเติล กดเล่นวิดีโอ หมุนโทรศัพท์ให้อยู่ในแนวนอน มองหา CC แล้วเลือก ภาษาไทย

ขั้นตอนที่ 1: ปรับย่อหน้าแรกของคุณ

Google เปลี่ยนวิธีจัดอันดับหน้าเว็บแล้ว ตอนนี้มันให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า Goal Completion หรือ การตอบคำถามของผู้ค้นหาให้ได้ทันที

Google ไม่สนใจว่าหน้าเว็บจะสวยหรือยาวแค่ไหน มันแค่อยากให้ผู้ใช้ได้สิ่งที่พวกเขาหามาให้เร็วที่สุด ถ้าย่อหน้าแรกของคุณตอบไม่ได้ ก็มีโอกาสสูงที่อันดับจะตก

สิ่งที่ควรทำคือ:

  • ใส่คำค้นหาหลักในประโยคแรก
  • ตอบคำถามของผู้ใช้อย่างตรงประเด็น
  • ตัดเกริ่นนำยืดยาวหรือประวัติบริษัทออกไป

ตัวอย่าง: ถ้ามีคนค้นว่า “SEO คืออะไร?” ประโยคแรกของคุณควรเป็น
“SEO หรือ Search Engine Optimization คือกระบวนการเพิ่มการมองเห็นเว็บไซต์บน Google”

แค่นั้นพอครับ

ขั้นตอนที่ 2: ปรับ Title Tag และ H1 Tag ให้ตรงประเด็น

Title Tag คือชื่อหน้าที่แสดงบน Google ส่วน H1 Tag คือหัวข้อใหญ่ของหน้า ทั้งสองช่วยให้ Google เข้าใจว่าคุณพูดถึงเรื่องอะไร

ถ้า Title Tag ของคุณเขียนว่า “หน้าแรก” หรือ “ยินดีต้อนรับ” Google จะสับสนมาก

วิธีแก้คือ:

  • ใช้คำค้นหลักในทั้ง Title และ H1
  • เขียนให้กระชับและชัดเจน
  • ให้ทั้งสองแท็กตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ

เช่น ถ้าคุณเขียนหน้าเรื่อง “วิธีซ่อมเครื่องทำน้ำร้อนด้วยตัวเอง” หัวข้อและชื่อหน้าควรมีคำนั้นชัดเจน

ขั้นตอนที่ 3: ให้เนื้อหาตรงกับความตั้งใจของผู้ค้นหา (Search Intent)

Search Intent หมายถึง สิ่งที่ผู้ค้นหาต้องการจริง ๆ เวลาเสิร์ช Google รู้เรื่องนี้จากการดูว่าคนส่วนใหญ่คลิกอะไร

ตัวอย่าง:

  • “เดรสสีดำ” ส่วนใหญ่ต้องการซื้อสินค้า
  • “ประวัติเดรสสีดำ” ต้องการอ่านเนื้อหา

ถ้าเนื้อหาของคุณไม่ตรงกับหน้าที่กำลังติดอันดับอยู่แล้ว ต่อให้ดีแค่ไหนก็ไม่ติดอันดับ

ให้ลองค้นคำนั้นบน Google แล้วสังเกตว่า:

  • เป็นบทความ, หน้าสินค้า หรือวิดีโอ?
  • เนื้อหามีรูปแบบอย่างไร (ลิสต์, วิธีทำ, เปรียบเทียบ)?
  • ยาวหรือสั้นแค่ไหน?

แล้วคุณก็สร้างเนื้อหาในรูปแบบเดียวกัน แต่ทำให้ดีกว่า

เลือกหน้าที่ควรปรับก่อน

ไม่ใช่ทุกหน้าควรปรับพร้อมกัน ให้เริ่มจากหน้าที่ติดอันดับในตำแหน่ง 6 ถึง 15 เพราะเป็นตำแหน่งที่ขยับขึ้นได้ง่ายและเห็นผลไว

ใช้ Google Search Console เพื่อค้นหาหน้าเหล่านี้:

  1. ไปที่รายงาน “Search Results”
  2. กรองด้วยค่าเฉลี่ยอันดับ ≥ 6
  3. เลือกคำค้นที่คุณอยากได้ทราฟฟิกเพิ่ม

หลีกเลี่ยงหน้าที่มีอันดับดีอยู่แล้วจากหลายคำค้น เพราะการเปลี่ยนมากเกินไปอาจกระทบลำดับ

ใช้เครื่องมือช่วยให้เร็วขึ้น

มีเครื่องมือที่ช่วยให้คุณวิเคราะห์ได้เร็วขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Page Optimizer Pro เครื่องมือนี้จะเปรียบเทียบหน้าของคุณกับหน้าอันดับต้น ๆ แล้วให้คำแนะนำ

คุณจะเห็นว่า:

  • ควรใช้คำหลักกี่ครั้ง
  • เนื้อหาสั้นหรือยาวเกินไปไหม
  • หัวข้อย่อย รูปภาพ การจัดรูปแบบโอเคไหม

และยังจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ควรแก้ก่อนด้วย

สรุป: รวมเทคนิคทั้งหมดเข้าด้วยกัน

นี่คือ 5 อย่างที่คุณควรทำ:

  • ย่อหน้าแรก: ตอบคำถามของผู้ใช้ทันที
  • Title และ H1: ชัดเจน ใช้คำค้นหลัก
  • Search Intent: ให้ตรงกับสิ่งที่ Google แสดงอยู่แล้ว
  • ลำดับความสำคัญ: เริ่มจากหน้าที่อยู่อันดับ 6–15
  • ใช้เครื่องมือ: อย่าง Page Optimizer Pro เพื่อช่วยวิเคราะห์

วิธีนี้ได้ผลเพราะใช้ข้อมูลจริงจากสิ่งที่ Google ชอบ ไม่ต้องเขียนเนื้อหาใหม่ แค่ปรับของที่มีให้ดีขึ้น

ทิ้งท้าย

การเพิ่มทราฟฟิกไม่จำเป็นต้องช้าและแพง เทคนิคพวกนี้เรียบง่าย ใช้เวลาน้อย และฟรี

เมื่อเริ่มได้ผลแล้ว คุณสามารถใช้วิธีเดียวกันกับหน้าอื่น ๆ ได้อีก

ถ้าอยากรู้วิธีเปลี่ยนทราฟฟิกให้เป็นลูกค้าจริง ลองอ่านบทความถัดไปที่เราจะแนะนำเรื่องนี้โดยเฉพาะครับ