การดูแลให้หลอดเลือดของคุณสะอาดและไหลเวียนได้ดี เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับสุขภาพหัวใจของคุณ หลายคนมักจะมองว่าคอเลสเตอรอลเป็นตัวการหลักของปัญหาหัวใจ แต่จริง ๆ แล้ว มีอีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญกว่านั้น: ลิ่มเลือด
ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าอะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริงของโรคหัวใจ และทำไม น้ำมันตับปลา จึงอาจเป็นอาหารที่ดีที่สุดในการดูแลหัวใจของคุณ
วิดีโอต้นฉบับ
#1 Best Food to Unclog Arteries
วิธีการเปิด ซับไตเติล กดเล่นวิดีโอ หมุนโทรศัพท์ให้อยู่ในแนวนอน มองหา CC แล้วเลือก ภาษาไทย
หัวใจวายส่วนใหญ่เกิดจากลิ่มเลือด
หลายคนคิดว่าหัวใจวายเกิดจากหลอดเลือดที่อุดตันด้วยคอเลสเตอรอล แต่ความจริงก็คือ
ประมาณ 80% ของอาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง เกิดจากลิ่มเลือด ที่อุดตันการไหลเวียนของเลือดในทันที ลิ่มเลือดเหล่านี้อาจเกิดจากความเครียด การอักเสบ หรือความเสียหายภายในหลอดเลือด
ดังนั้น การป้องกันลิ่มเลือดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
แอสไพรินอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดอีกต่อไป
หลายปีที่ผ่านมา แอสไพรินถือเป็นยาหลักในการป้องกันหัวใจวาย เพราะมันช่วยทำให้เลือดบางลง
แต่การศึกษาล่าสุดพบว่า การใช้แอสไพรินทุกวันอาจทำให้เกิดเลือดออกในกระเพาะอาหารหรือสมอง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ไม่มีประวัติเป็นโรคหัวใจ ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงไม่แนะนำให้ทุกคนอายุเกิน 60 ปีใช้แอสไพรินเป็นประจำอีกต่อไป (US Preventive Services Task Force, 2022)
EPA: ตัวช่วยธรรมชาติที่ทำให้เลือดไหลลื่น
EPA (อีพีเอ) ย่อมาจาก eicosapentaenoic acid เป็นกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่พบในปลาทะเลมัน เช่น แซลมอน แมคเคอเรล และปลาคอด
EPA ช่วยให้เกล็ดเลือดจับตัวกันน้อยลง ทำให้โอกาสเกิดลิ่มเลือดน้อยลงโดยไม่มีผลข้างเคียงเหมือนยา เหมือนกับยา warfarin ที่อาจรบกวนวิตามิน K
EPA ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจจากหลายทาง
งานวิจัยในปี 2019 ที่ชื่อว่า REDUCE-IT พบว่าผู้ที่ได้รับ EPA ปริมาณสูง มีความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและหลอดเลือดลดลงถึง 25% (Bhatt et al., NEJM 2019)
EPA ยังช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือด และทำให้คราบพลัคที่เกาะอยู่ไม่แตกตัว ซึ่งช่วยป้องกันการอุดตันแบบเฉียบพลัน
EPA ยังช่วยให้ใจสงบ และลดฮอร์โมนเครียด
ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอย่าง คอร์ติซอล และ อะดรีนาลีน ซึ่งทำให้หัวใจเต้นเร็วและเสี่ยงลิ่มเลือดมากขึ้น
EPA ช่วยลดระดับของฮอร์โมนเหล่านี้ จึง ช่วยลดความเครียดและความเสี่ยงหัวใจวายในเวลาเดียวกัน
ทำไมน้ำมันตับปลาจึงดีที่สุด
คุณสามารถได้รับ EPA จากปลาทะเลมันทั่วไป แต่ น้ำมันตับปลาโดดเด่น เพราะมีวิตามิน A และ D อยู่ด้วย
- วิตามิน A (เรตินอล) ช่วยซ่อมแซมผนังหลอดเลือดจากภายใน
- วิตามิน D ช่วยให้หลอดเลือดผ่อนคลายโดยการเพิ่ม ไนตริกออกไซด์ ซึ่งช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
วิตามิน D ยังช่วยลดความแข็งของหลอดเลือด และลดการสะสมของแคลเซียมในผนังหลอดเลือด โดยเฉพาะเมื่อรับประทานร่วมกับ วิตามิน K2 (Talmor-Barkan et al., 2018)
วิธีง่าย ๆ ในการเริ่มใช้น้ำมันตับปลา
คุณสามารถหาน้ำมันตับปลาในรูปแบบน้ำหรือแคปซูล หรือกินตับปลาคอดแบบกระป๋องก็ได้
คำแนะนำง่าย ๆ:
- เลือกแบบ wild-caught ถ้าเป็นไปได้
- เริ่มจาก ปริมาณน้อยต่อวัน (ดูฉลากหรือปรึกษาแพทย์)
- เก็บน้ำมันตับปลาในตู้เย็นหลังเปิด
การเสริมอาหารตัวนี้ในชีวิตประจำวัน อาจเป็นทางเลือกง่าย ๆ ที่ช่วยดูแลหัวใจคุณได้ โดยไม่มีความเสี่ยงเหมือนยาละลายลิ่มเลือดทั่วไป
สรุป: ทำไมน้ำมันตับปลาดีต่อหัวใจ
- มี EPA สูง ช่วยลดโอกาสเกิดลิ่มเลือด
- มี วิตามิน A ช่วยซ่อมแซมหลอดเลือด
- มี วิตามิน D ช่วยให้หลอดเลือดผ่อนคลาย
- ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงเหมือนยาแอสไพรินหรือวาร์ฟาริน
- ลดความเครียดและฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับหัวใจวาย