พวกเขาใช้ครีม โลชั่น หรือยาต่างๆ
แต่จริงๆ แล้ว ปัญหาผิวหลายอย่างเริ่มจาก “ภายใน” โดยเฉพาะที่ลำไส้
มาดูกันว่าลำไส้ส่งผลต่อผิวอย่างไร และคุณจะฟื้นฟูมันได้อย่างไร
วิดีโอต้นฉบับ
Your Skin Is WARNING You (Don’t Ignore This!)
วิธีการเปิด ซับไตเติล กดเล่นวิดีโอ หมุนโทรศัพท์ให้อยู่ในแนวนอน มองหา CC แล้วเลือก ภาษาไทย
ผิวกับลำไส้เชื่อมโยงกัน
ผิวของคุณสะท้อนสุขภาพภายในร่างกาย
ถ้าลำไส้แข็งแรง ผิวก็มักจะดูดี
แต่ถ้าลำไส้มีปัญหา คุณอาจเริ่มเห็นผื่น สิว หรือรอยแดงบนผิว
การดูแลผิวให้ดี ต้องเริ่มจากการดูแลลำไส้ก่อน
ปัญหาลำไส้แบบที่ 1: แบคทีเรียเสียสมดุล
ลำไส้ต้องมีแบคทีเรียดีและไม่ดีในปริมาณที่เหมาะสม
ถ้าแบคทีเรียไม่ดีมีมากเกินไป จะเกิด “ดิสไบโอซิส” (Dysbiosis)
ภาวะนี้ทำให้เกิดการอักเสบในลำไส้ แล้วลามไปที่ผิว เช่น โรคโรซาเซีย
แพทย์อาจจ่ายยาปฏิชีวนะ ซึ่งช่วยชั่วคราว
แต่สุดท้ายอาจทำให้ลำไส้แย่ลง เพราะฆ่าแบคทีเรียดีไปด้วย
วิธีที่ดีกว่าคือ ฟื้นฟูแบคทีเรียดีด้วยอาหารและโปรไบโอติก
ปัญหาลำไส้แบบที่ 2: SIBO (แบคทีเรียเกินในลำไส้เล็ก)
SIBO คือแบคทีเรียไปเติบโตผิดที่ในลำไส้เล็ก
พวกมันแย่งอาหารก่อนที่ร่างกายจะดูดซึม
ผลที่ตามมา คือท้องอืด ปวดข้อ และผิวมีปัญหา เช่น โรซาเซีย
การจัดการ SIBO จะช่วยให้ลำไส้และผิวกลับมาดีขึ้น
ปัญหาลำไส้แบบที่ 3: การอักเสบและการดูดซึมสังกะสีลดลง
เมื่อมีการอักเสบในลำไส้ การดูดซึมแร่ธาตุสำคัญอย่างสังกะสีจะลดลง
สังกะสีจำเป็นต่อการซ่อมแซมผิวและการรักษาแผล
ถ้าขาดสังกะสี อาจพบอาการเหล่านี้:
- ผิวแห้ง ลอก เป็นขุยบริเวณปากหรือจมูก
- ผื่นเรื้อรังที่ไม่หายง่าย
- แผลหายช้า
อาหารที่ก่อการอักเสบ เช่น กลูเตนและน้ำมันเมล็ดพืช อาจเป็นสาเหตุ
การลดอาหารกระตุ้น หรือรับประทานแบบคาร์นิวอร์ช่วงสั้นๆ จะช่วยได้
ปัญหาลำไส้แบบที่ 4: Villi เสียหาย และขาดวิตามินดี
ภายในลำไส้มีวิลไล (villi) ซึ่งช่วยดูดซึมสารอาหาร
แต่การอักเสบเรื้อรังทำให้วิลไลแบนและเสียหน้าที่
ผลคือร่างกายดูดซึมวิตามินดีได้น้อยลง
วิตามินดีช่วยระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพผิว
การขาดวิตามินดีเกี่ยวข้องกับโรคผิวหนังออโตอิมมูน เช่น สะเก็ดเงิน
แสงแดด วิตามินดีเสริม หรือแสงบำบัดสามารถช่วยได้ — แต่ควรเริ่มที่ลำไส้
ปัญหาลำไส้แบบที่ 5: น้ำดีน้อย และดูดซึมวิตามินเอไม่ได้
ตับสร้างน้ำดีเพื่อช่วยย่อยไขมัน
ถ้ามีน้ำดีน้อย หรือไม่มีถุงน้ำดี จะดูดซึมวิตามินเอไม่ได้ดี
ทำให้ผิวเป็นตุ่มเล็กๆ ที่แขนหรือขา ซึ่งเป็นสัญญาณของการขาดวิตามินเอ
อาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอ เช่น ตับวัว น้ำมันตับปลา จะช่วยได้
น้ำมันตับปลายังมีโอเมก้า-3 ซึ่งดีต่อผิวเช่นกัน
การเสริมน้ำดี เช่น ox bile หรือ bile salts อาจจำเป็นสำหรับบางคน
วิธีฟื้นฟูลำไส้เพื่อผิวที่ดีขึ้น
เมื่อเข้าใจว่าผิวและลำไส้เชื่อมกัน คุณก็เริ่มดูแลจากภายในได้เลย
นี่คือตัวช่วยง่ายๆ ที่แนะนำ:
- กินอาหารหมัก เช่น กิมจิ โยเกิร์ตดิบ หรือผักดอง
- ใช้โปรไบโอติก L. reuteri ที่อยู่ได้ทั้งในลำไส้เล็กและใหญ่
- ดื่มน้ำต้มกระดูก หรือกินเนื้อสัตว์เพื่อซ่อมแซมเยื่อบุลำไส้
- งดอาหารที่กระตุ้นการอักเสบ เช่น กลูเตน น้ำตาล น้ำมันพืช
- ลองอดอาหารเป็นช่วง เช่น กินแค่วันละมื้อ
- ใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล หรือ betaine HCl เพื่อเพิ่มกรดในกระเพาะ
ถ้าลำไส้ของคุณเสียหายมาก อาจต้องกินอาหารที่ควบคุมมากขึ้น
แต่เมื่อคุณฟื้นฟูลำไส้ได้แล้ว ผิวก็จะดีขึ้นตาม
ทั้งระบบย่อยดีขึ้น ภูมิคุ้มกันแข็งแรง และผิวก็สดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ