ทำไมผู้ชายยุคนี้ถึงมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนน้อยกว่าคุณปู่ของพวกเขาถึงครึ่งหนึ่ง (และคุณสามารถทำอะไรกับมันได้บ้าง)

by | Apr 9, 2568 | Wellness

ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนของผู้ชายลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง และนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของพลังงานหรือสมรรถภาพทางเพศเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อกล้ามเนื้อ อารมณ์ ภาวะเจริญพันธุ์ และสุขภาพโดยรวมของผู้ชายด้วย เราจะมาดูกันว่าสาเหตุจริงๆ คืออะไร และวิธีธรรมชาติที่คุณสามารถฟื้นฟูฮอร์โมนนี้ได้อย่างยั่งยืน

วิดีโอต้นฉบับ

Why Men Today Have HALF the Testosterone of Their Grandfathers

วิธีการเปิด ซับไตเติล กดเล่นวิดีโอ หมุนโทรศัพท์ให้อยู่ในแนวนอน มองหา CC แล้วเลือก ภาษาไทย

สัญญาณของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำที่ควรสังเกต

เทสโทสเตอโรนที่ต่ำมักมาแบบเงียบๆ และหลายคนไม่รู้ตัวในตอนแรก

สัญญาณที่พบบ่อย ได้แก่:

  • มีเนื้อเยื่อคล้ายหน้าอกในผู้ชาย
  • ลูกอัณฑะมีขนาดเล็กลง
  • กล้ามเนื้อลดลง แม้ออกกำลังกาย
  • ปริมาณน้ำอสุจิน้อยลง
  • ขนตามร่างกายน้อยลง (เช่น ขนหน้าอก ขนขา หนวดเครา)
  • ร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน
  • ไขมันหน้าท้องสะสม

หลายคนคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือ “ความชรา” ตามปกติ แต่ความจริงแล้ว มันบ่งบอกถึงปัญหาฮอร์โมนที่ลึกกว่านั้น

ตัวการที่ซ่อนอยู่ซึ่งทำให้ฮอร์โมนลดลง

หลายคนรู้ว่าน้ำตาลและอาหารแปรรูปไม่ดีต่อสุขภาพ แต่สาเหตุของฮอร์โมนต่ำในยุคนี้มีมากกว่านั้น

ปัจจัยสำคัญคือ สารรบกวนระบบฮอร์โมน หรือ endocrine disruptors ซึ่งเป็นสารเคมีในสิ่งแวดล้อมที่เลียนแบบฮอร์โมนเอสโตรเจน และทำให้ระบบฮอร์โมนเสียสมดุล

แหล่งที่พบบ่อย ได้แก่:

  • ยาฆ่าแมลง ยากำจัดวัชพืช
  • ไมโครพลาสติกในน้ำดื่ม
  • สารเคมีตกค้างในน้ำประปา (เช่น สาร PFAS หรือ “สารเคมีตลอดกาล”)
  • อาหารที่มีถั่วเหลืองสูง เช่น นมถั่วเหลือง บาร์โปรตีนจากถั่วเหลือง
  • คลื่นจากโทรศัพท์และ Wi-Fi
  • การอดนอน
  • ความเครียดเรื้อรัง

สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คนรุ่นก่อนหน้าเราไม่ต้องเผชิญ และอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมฮอร์โมนของพวกเขาจึงสูงกว่า

สารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการในการสร้างฮอร์โมน

ร่างกายต้องใช้ “เครื่องมือ” ที่ถูกต้องในการสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน

1. สังกะสี (Zinc)
ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนคอเลสเตอรอลเป็นฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน พบได้ในเนื้อแดง หอยนางรม และตับ

2. แมกนีเซียม (Magnesium)
ช่วยในกระบวนการทางเอนไซม์หลายชนิด แนะนำให้ใช้รูปแบบแมกนีเซียมไกลซิเนต วันละ 400–800 มก.

3. วิตามินดี (Vitamin D)
ช่วยเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ปริมาณที่เหมาะสมคือวันละ 10,000 IU

หากขาดสารอาหารเหล่านี้ ร่างกายก็ไม่สามารถสร้างฮอร์โมนได้เพียงพอ

เหล็กมากเกินไปก็เป็นปัญหา

แม้ว่าเหล็กจะเป็นแร่ธาตุสำคัญ แต่ถ้ามีมากเกินไปก็จะทำลายร่างกายได้

ร่างกายไม่มีวิธีขจัดเหล็กส่วนเกินออกได้ง่าย จึงสะสมในอวัยวะต่างๆ และส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ ซึ่งจะรบกวนกระบวนการสร้างฮอร์โมน

สาเหตุหลักของการสะสมเหล็กคือ การขาดทองแดง (Copper) ทองแดงช่วยควบคุมเหล็กในร่างกายให้ทำงานได้อย่างปลอดภัย

บางคนที่เป็นโลหิตจาง อาจไม่ได้มีเหล็กน้อย แต่เป็นเพราะเหล็กถูกกักอยู่ในเซลล์และไม่สามารถนำไปใช้ได้

วิธีธรรมชาติในการเพิ่มเทสโทสเตอโรน

ไม่ต้องพึ่งยา แต่สามารถฟื้นฟูฮอร์โมนได้ด้วยวิธีธรรมชาติ

เริ่มจากขั้นตอนง่ายๆ เหล่านี้:

  • กินอาหารที่มีสังกะสีและแมกนีเซียม เช่น เนื้อวัว ถั่วเปลือกแข็ง ผักใบเขียว
  • รับแดด หรือเสริมวิตามินดี 10,000 IU ต่อวัน
  • ออกกำลังกายแบบยกเวทหรือ HIIT อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์
  • นอนหลับให้ได้ 7–9 ชั่วโมงต่อคืน
  • ใช้เครื่องกรองน้ำเพื่อขจัดสารเคมี
  • อย่าเก็บโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง ใช้โหมดลำโพงแทน
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำจากถั่วเหลือง

เมื่อร่างกายได้สิ่งที่ต้องการ ฮอร์โมนก็จะกลับมาทำงานได้ตามธรรมชาติ

จุลินทรีย์ที่อาจเป็นกุญแจสำคัญ: L. Reuteri

หนึ่งในวิธีที่น่าสนใจที่สุดคือการใช้โปรไบโอติกชื่อ Lactobacillus reuteri

จุลินทรีย์ตัวนี้เคยอยู่ในลำไส้ของคนส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้กว่า 90% ของคนไม่ค่อยมีมันแล้ว เพราะการใช้ยาปฏิชีวนะในอดีต

จากการทดลองในสัตว์ พบว่า L. reuteri สามารถ:

  • เพิ่มขนาดอัณฑะ
  • เพิ่มการผลิตเทสโทสเตอโรน
  • ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
  • เพิ่มฮอร์โมนออกซิโทซิน ซึ่งช่วยลดความเครียด
  • ส่งเสริมการสร้างกล้ามเนื้อ

คุณสามารถหมัก L. reuteri เองแบบโยเกิร์ต และรับประทานได้ทุกวัน เป็นวิธีธรรมชาติที่น่าทดลองเพื่อสนับสนุนฮอร์โมนอย่างปลอดภัย

สรุป

ปัญหาฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำไม่ใช่แค่เรื่องอายุ แต่มาจากสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของยุคสมัย

ข่าวดีคือ เราสามารถฟื้นฟูได้ด้วยวิธีธรรมชาติ โดยปรับพฤติกรรมง่ายๆ เพื่อสนับสนุนร่างกายให้ทำงานได้ดีที่สุด

เมื่อให้ร่างกายในสิ่งที่มันต้องการ ฮอร์โมนจะกลับมา และคุณจะรู้สึกดีขึ้นอย่างยั่งยืน