ร่างกายของคุณทำงานอย่างหนักทุกวันเพื่อย่อยอาหารที่คุณกินเข้าไป ตั้งแต่ในปากจนถึงลำไส้ใหญ่ แต่ละส่วนของระบบย่อยอาหารมีหน้าที่ของตัวเอง ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งมีปัญหา ก็อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด แก๊ส ท้องผูก หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้
ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายท้องบ่อย ๆ อาจถึงเวลาแล้วที่ต้องใส่ใจระบบย่อยอาหารของตัวเองมากขึ้น มาดูขั้นตอนการย่อยอาหาร และเรียนรู้วิธีช่วยให้ลำไส้ของคุณทำงานได้ดีขึ้นกันเถอะ
วิดีโอต้นฉบับ
The #1 Way to UNCLOG Your Colon Fast
วิธีการเปิด ซับไตเติล กดเล่นวิดีโอ หมุนโทรศัพท์ให้อยู่ในแนวนอน มองหา CC แล้วเลือก ภาษาไทย
ทุกอย่างเริ่มต้นที่ปาก
การย่อยอาหารเริ่มขึ้นทันทีเมื่อคุณเริ่มเคี้ยว การเคี้ยวช่วยทำให้อาหารชิ้นเล็กลง และยังส่งสัญญาณไปยังอวัยวะอื่น ๆ เช่น กระเพาะอาหาร ตับ ตับอ่อน และถุงน้ำดีให้เตรียมตัวทำงาน
ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งในระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ อาจส่งผลเสียต่อส่วนอื่น ๆ ตามไปด้วย
กรดในกระเพาะไม่ใช่ผู้ร้าย
หลายคนคิดว่าอาการกรดไหลย้อนเกิดจากกรดในกระเพาะมากเกินไป แต่จริง ๆ แล้วอาจเกิดจากกรดน้อยเกินไป โดยเฉพาะเมื่อเราอายุมากขึ้น กรดในกระเพาะจะลดลง ทำให้ย่อยโปรตีนและดูดซึมแร่ธาตุได้ไม่ดี
เมื่อกรดในกระเพาะไม่เพียงพอ วาล์วที่ปิดด้านบนของกระเพาะก็จะหลวม ทำให้กรดย้อนขึ้นมาสู่หลอดอาหาร
การกินยาลดกรดอาจทำให้ปัญหาแย่ลง วิธีที่ดีกว่าคือการเพิ่มกรดในกระเพาะด้วยวิธีธรรมชาติ เช่น ดื่มน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์แบบเจือจาง หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี เบทาอีน ไฮโดรคลอไรด์ เพื่อช่วยย่อยอาหาร
เอนไซม์และน้ำดี ผู้ช่วยที่มองไม่เห็น
เมื่ออาหารลงสู่ลำไส้เล็ก ตับอ่อนจะปล่อยเอนไซม์ออกมาย่อยไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต พร้อมกับที่ตับปล่อยน้ำดีผ่านถุงน้ำดี
น้ำดีช่วยย่อยไขมัน ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินสำคัญได้ดี เช่น วิตามิน A, D, E และ K
ถ้าร่างกายขาดน้ำดี คุณอาจรู้สึกแน่นท้อง มีแก๊ส หรือมีปัญหาด้านสายตา และอาจเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่าง Tudca สามารถช่วยสนับสนุนการไหลเวียนของน้ำดีและการย่อยอาหาร
ลำไส้เล็ก: จุดสำคัญของการดูดซึม และจุดเสี่ยงของปัญหา
ลำไส้เล็กเป็นจุดที่เกิดการย่อยและดูดซึมสารอาหารมากที่สุด แต่มันก็อ่อนแอและถูกทำร้ายได้ง่ายจากอาหารแปรรูป น้ำตาล และแป้งขัดขาว
สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เกิดภาวะ ลำไส้รั่ว ซึ่งเกิดจากผนังลำไส้ที่เสียหาย ทำให้ของเสียและสารที่ไม่ควรหลุดเข้าไปในเลือด ส่งผลให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย
การฟื้นฟูลำไส้เล็กเริ่มจากการหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ระคายเคือง เช่น กลูเตน น้ำมันพืช และคาร์โบไฮเดรตขัดขาว
ลำไส้ใหญ่กับจุลินทรีย์ที่มีพลัง
ลำไส้ใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์นับล้านล้านตัว พวกมันช่วยย่อยไฟเบอร์และผลิตกรดไขมันสายสั้น ซึ่งเป็นอาหารของเซลล์ในลำไส้ใหญ่และช่วยลดการอักเสบ
จุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ยังมีบทบาทในการ:
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันถึง 80%
- ผลิตสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนินและโดพามีน
- ยับยั้งเชื้อโรคไม่ให้เจริญเติบโต
แต่การใช้ยาปฏิชีวนะ อาหารแปรรูป และสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เช่น ไกลโฟเซต อาจทำลายสมดุลของจุลินทรีย์เหล่านี้ได้ง่าย แม้เพียงครั้งเดียว
ฟื้นฟูลำไส้แบบง่าย ๆ ที่ทำได้จริง
คุณสามารถช่วยลำไส้ของคุณได้ด้วยการปรับพฤติกรรมง่าย ๆ เช่น:
- กินอาหารหมักดอง เช่น กิมจิ ผักดอง และชีสนมดิบ
- หลีกเลี่ยงแป้งและธัญพืชที่อาจปนเปื้อนสารเคมี
- ทานโปรไบโอติกที่มีสายพันธุ์ L. reuteri เพื่อช่วยลดความเครียดและนอนหลับดีขึ้น
- ทำ การอดอาหารแบบเป็นช่วง (intermittent fasting) เพื่อให้ระบบย่อยอาหารได้พัก
- ลดการดื่มสมูทตี้ที่มีกากใยสูง ถ้ารู้สึกท้องอืด
ให้ระบบย่อยอาหารของคุณมีเวลาพักและฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติ
ลำไส้คือจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดี
ปัญหาสุขภาพเรื้อรังหลายอย่างมีต้นตอมาจากระบบย่อยอาหารที่ทำงานไม่ดี ถ้าคุณกินอาหารที่ไม่เหมาะสม หรือร่างกายย่อยอาหารไม่ถูกต้อง อาการต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย
แทนที่จะรักษาแค่อาการภายนอก เราควรหันมาดูแลรากของปัญหา นั่นคือระบบย่อยอาหารและลำไส้
ร่างกายของคุณรู้วิธีรักษาตัวเอง แค่ให้โอกาสและสิ่งที่มันต้องการ